‘นฤมล’ เคลื่อนไหว หลังถูกเซ็นปลดฟ้าฝ่าพร้อม ‘ธรรมนัส’

‘นฤมล’ เคลื่อนไหว หลังถูกเซ็นปลดฟ้าฝ่าพร้อม ‘ธรรมนัส’

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กเคลื่อนไหวเป็นครั้งแรกหลังถูกเซ็นปลดฟ้าฝ่าพร้อม ‘ธรรมนัส’ เผยภารกิจสุดท้ายก่อนออกจากตำแหน่ง นาง นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งพร้อมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กเป็นครั้งแรก หลังจากที่มีข่าวดังกล่าวขึ้น โดยนางนฤมล ระบุว่า “เป็นประธานในพิธียกฉัตรพระสังกัจจายน์และพระอุปคุต ณ วัดวชิรธรรมมาวาส” โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นในวันที่ 9 กันยายน เวลา 16.00 น.”

ภารกิจสุดท้ายของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ 

คือ การเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) ครั้งที่ 4/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยเวลาประมาณเที่ยงวัน นางนฤมลก็ได้โพสต์ภาพการประชุมดังกล่าวลงในเฟซบุ๊ก ก่อนที่ในช่วงเย็นวันเดียวกันจะมีการเปิดเผยเรื่องการถูกปลดออกจากตำแหน่ง

ที่ประชุม เห็นชอบ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เตรียมกลับไปใช้ บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ขณะที่ฝ่ายค้านและพรรคเล็กร่วมงดออกเสียง ที่ประชุมได้ร่วมลงคะแนนเสียงในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในการลงมติร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และ 91) วาระที่ 3 แก้ไขระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ และ ส.ส.เขต 400 เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน

สื่อเผย ผลการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ว่าที่ประชุมมีมติไม่ ปรับพื้นที่สีแดงเข้ม และ คงไว้ 29 จังหวัดเช่นเดิม รวมถึงไม่มีแผนปรับเวลาเคอร์ฟิว สำนักข่าว ข่าวสด ได้รายงาน ผลการประชุมที่ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน

คาดว่าที่ประชุม ศบค.จะรับทราบรายงานสถานการณ์และคาดการณ์แนวโน้มการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อในประเทศ และรับทราบแนวทางการดำเนินการฉีดวัคซีนให้ชาวกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว และ จ.ตราด รวมถึงพิจารณาการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ผลการให้บริการวัคซีนที่ผ่านมา และแผนการให้บริการวัคซีนเดือนต.ค.2564 เพื่อเป็นแนวทางการฉีดวัคซีนในเด็ก

ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า จากที่ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เสนอปรับลดจำนวนพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มลงนั้น ปรากฏว่าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ยังให้คงไว้จำนวน 29 จังหวัดตามเดิม เนื่องจากเห็นว่าถึงแม้ปัจจุบันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จะมีแนวโน้มลดลง แต่ก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงอยู่ และยังมีจำนวนผู้เสียชีวิตเกินร้อย

นอกจากนี้ที่ประชุมยังให้คงมาตรการต่างๆ ไว้ตามเดิม โดยเน้น free COVID setting สำหรับสถานที่ต่างๆ และกำหนดการเวิร์ก ฟรอม โฮม ไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย. ส่วนการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว ให้คงช่วงเวลาเดิมไว้คือตั้งแต่ 21.00 น. ถึง 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น

ประยุทธ์ ทำงานต่อ ไม่สนกระแส เซ็นปลด ธรรมนัส

ประยุทธ์ ควง อนุพงศ์ เดินหน้าตรวจเยี่ยมโรงงาน เพื่อดูความพร้อมสำหรับโครงการ Factory Sandbox ท่ามกลางกระแสข่าวเซ็นปลด ธรรมนัส-นฤมล พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตรวจเยี่ยมโรงงานตามโครงการ “Factory Sandbox” จ.นนทบุรี ท่ามกลางกระแสเซ็นปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ นาง นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา

โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ประธานสภาอุตสาหกรรม ประธานสภาหอการค้าจังหวัดนนทบุรี ผู้บริหารโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ ให้การต้อนรับ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงมีสีหน้าปกติ

เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึง รมว.แรงงาน ได้รายงานความเป็นมา ถึงแผนและผลการดำเนินงานโครงการ “Factory Sandbox” ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบนโยบาย พร้อมตรวจเยี่ยมผู้ประกันตนที่ขอรับการตรวจ RT-PCR ที่อาคารสนามกีฬา

ซึ่งนอกจากการตรวจเยี่ยมโรงงานแล้ว ในช่วงเวลา 13.30 น. ของวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 14/2564 ผ่านระบบ Video Conference) จากห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

นอกจากนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังเผยว่า ครม.ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ดังนี้ ให้มีกลไกความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทย ในการติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการที่ต้องดำเนินการการบริหารความเสี่ยง ทั้งระยะสั้นและระยะปานกลางสำหรับในแต่ละกรณีเป็นการล่วงหน้า

เร่งสร้างรายได้ใหม่ตามมาตรการของรัฐบาล เช่น มาตรการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง เข้าสู่ประเทศไทย (LTR) มาตรการดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC และอุตสาหกรรมอนาคต (New S – curve) มาตรการส่งเสริมการลงทุนในกิจการด้านเทคโนโลยีและธุรกิจเกิดใหม่ (Startup) การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยBCG Mode การติดตามการจัดเก็บรายได้ของรัฐ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณ

แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม